“Shuberry” รองเท้าโซฟา ย่างก้าวเริ่มจากศูนย์สู่เศรษฐีร้อยล้าน


  ไม่ธรรมดากับสาวสู้ชีวิตคนนี้ ที่ความพยายามกลายเป็นความภาคภูมิใจในธุรกิจรองเท้าโซฟา แบรนด์ 'Shuberry' รวม 12 สาขา ทั้งๆ ที่เริ่มจากศูนย์จากเด็กขายขนมปัง เคยขอข้าววัดกิน แต่รักในแฟชั่นพยายามเก็บหอมรอมริบ เงินต่อเงิน กลายเป็นผู้ประกอบการร้อยล้านอย่างในทุกวันนี้
กรกนก สว่างรวมโชค เจ้าของแบรนด์ Shuberry

        เส้นทางชีวิตของ “กรกนก สว่างรวมโชค” ถือเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจที่ดีแก่ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ โดยเธอมุ่งมั่นและรักที่จะทำในสิ่งที่ตนเองรักอย่างสุดกำลัง ทำให้ผลงานที่ออกมากลายเป็นความภาคภูมิใจ แต่กว่าจะมาเป็น 'รองเท้าโซฟาชู' ได้นั้น เธอต้องสั่งสมประสบการณ์จากการเป็นแม่ค้ามาตั้งแต่ปี 2542 ด้วยการออกแบบและจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์ Sexy de Cute กลายเป็นสินค้าแฟชั่นขวัญใจเด็กสยาม จนสามารถขยายสาขาได้ 6 สาขาในสยามสแควร์ ต่อมาปี 2546 เริ่มต้นธุรกิจค้าส่ง รวม 3 สาขาในย่านประตูน้ำและสำเพ็ง สุดท้ายมาในปี 2551 จนถึงปัจจุบัน แบรนด์รองเท้า Shuberry ถือกำเนิดขึ้น รวม 12 สาขา กลายเป็นนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ที่มีเงิน 100 ล้านบาทด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น
  แบรนด์ Shuberry หรือที่รู้จักกันดีกับรองเท้าโซฟา ที่เธอคว้ารางวัลนวัตกรรมดีเด่นมาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งไอเดียรองเท้าโซฟาเริ่มจากตัวเธอเองในช่วงที่ประสบอุบัติเหตุข้อเท้าพลิกจนเดินไม่ได้อยู่หลายเดือน แต่ด้วยหน้าที่การงานต้องลองสวมใส่รองเท้าทุกคู่ที่ออกแบบมาใหม่แต่กลับทำไม่ได้ จากอาการปวดเมื่อยเท้าต้องรับน้ำหนัก จึงเกิดความคิดว่าน่าจะมีรองเท้าที่ช่วยบำบัดอาการของโรครองช้ำ รวมถึงต้องใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย สุดท้ายนวัตกรรมรองเท้านวดสกัดจุดจึงเกิดขึ้น พร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยได้ที่ปรึกษาจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ควบคู่กับการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเดิมเพียงเดือนละ 500 คู่ ทะยานสู่ 1,000 คู่ในเวลาอันรวดเร็ว

สไตล์รองเท้าผ้าใบก็มีให้เลือกสรร

        “เรามีโรงงานผลิตรองเท้าเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานแฮนด์เมด ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการปรับเปลี่ยนรูปแบบได้เร็ว ซึ่งบางคอลเลกชันผลิตออกมาจำนวนไม่มากเพราะต้องเปลี่ยนแบบเร็วให้ทันตามกระแสแฟชั่น ซึ่งการทำตลาดมีทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ โดยการนำสินค้าไปลงประกาศขายตามเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าชื่อดัง ขณะที่การทำตลาดแบบออฟไลน์ เป็นการเปิดสาขาของเราเองที่ตอนนี้มี 12 สาขา รวมถึงอนาคตเตรียมเจาะกลุ่มลูกค้าตามโรงพยาบาล อย่าง แพทย์ พยาบาล เพื่อตอกย้ำคุณภาพสินค้าที่ช่วยนวดเท้าได้จริง” 
จะเดินทางไปไหน ก็สบายเท้าด้วย Shuberry

        นอกจากนี้เพื่อความ 'ครบ' สำหรับการแต่งตัวตามแฟชั่นของหญิงสาว ทาง Shuberry จึงออกแบบกระเป๋า ที่สามารถสั่งผลิตแผ่นเหล็กติดชื่อตัวเองบนกระเป๋าได้ กับคอลเลกชันเมกวิทเลิฟ (Make with Love) ขณะเดียวกันในเร็วๆ นี้จะผลิตรองเท้าเด็กวัยใส เอาใจคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกสวมใส่รองเท้าที่นุ่มสบายทุกย่างก้าว 

แม้จะส้นตึก แต่กลับไม่เมื่อย

        ปัจจุบันร้าน Shuberry มีทั้งหมด 12 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลสาขา พระราม 2, พระราม 3, พระราม 9, ลาดพร้าว, รัตนาธิเบศร์, ชลบุรี ขณะที่ห้างในเครือเดอะมอลล์ ได้แก่ สาขาบางกะปิ และบางแค , ห้างซีคอนสแควร์, เมกะ บางนา, สยามสแควร์ วัน และแฟชั่น ไอส์แลนด์ 

ใส่ออกงานก็เก๋ไปอีกแบบ

        ส่วนการขยายตลาดไปต่างประเทศ จะเน้นประเทศในกลุ่ม AEC เนื่องจากเป็นกลุ่มที่สนใจในสินค้าเป็นทุนเดิม จากที่ผ่านมาได้ลองตลาดกับประเทศกลุ่ม CLMV อย่าง ประเทศลาว ที่ซื้อแฟรนไชส์จาก Shuberry ไปตั้งร้านของตนเองมา 2 เดือนที่แล้ว ถือเป็นโอกาสดีในการเปิดประตูสู่ตลาดต่างประเทศในอนาคต 





ผ่านการเช็คคุณภาพทุกคู่

        ***สนใจติดต่อ 0-2683-8888 หรือที่ www.shuberry.com*** 

       
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
       



ที่มา :http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000082556


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น